Site Overlay

กำลังใจ คือ อะไร แล้วกำลังใจมากจากไหนมากที่สุด

กำลังใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนเราในทุกวันนี้ด้วยหลายๆ คนจำเป็นต้องทำงานหนักอย่างมากเพื่อครอบครัวและคนที่รัก ด้วยการวางแผนว่าก่อนอายุ 30 ต้องมีรถสักคันแล้วก่อนอายุ 40 ต้องมีบ้านสักหลัง ตามด้วยก่อนอายุ 50 ต้องหมดหนี้ให้ได้ ทุกคนก็คาดหวังกันไว้แบบนี้เกือบทั้งนั้น สำหรับสายสู้สายที่มีความตั้งใจอย่างล้นเหลือ แต่ก็มีบ้างในบางจังหวะที่เราเดินไปเจอกับปัญหาและเจอกับอุปสรรค แต่ก็สู้กันเต็มที่ แต่ถ้ามองดูให้ดี เราทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวของเรามีความสุขและมีทุกอย่าง อย่างที่เขามีกัน
แล้วครอบครัวรับรู้กันบ้างหรือเปล่า หรือมองแค่ตอนที่เขาไม่ทำงาน ในจังหวะที่เหนื่อยแรงอ่อนล้าเป็นที่สุดแล้วก็มองว่าไม่ตั้งใจ ไม่สู้จริง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นนานนับ 23.59 ชั่วโมงเขาตั้งใจทำงานอย่างไม่ได้หยุด แต่พอพักหายใจแค่ 1 นาทีก็ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้กันแล้ว นอกจากที่ต้องเหนื่อยจากงานแล้ว ก็ต้องมาเจอกับคำพูดและสายตาที่ไม่ให้กำลังใจกันด้วย มันก็ยิ่งเป็นการทำร้ายร่างกายและจิตใจอย่างมาก คราวนี้ก็จะเริ่มที่จะมีปากเสียงกันแล้ว แล้วก็ขุดเรื่องเก่าๆ ออกมาทั้งหมด อย่างเช่น “ตอนนั้นเธอยังทำแบบนี้” หรือ “เมื่อก่อนไม่เห็นพูด หรือทำแบบนี้เลย” แล้วก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ในที่สุด ก็ต้องแยกทางกันไปด้วยความไม่เข้าใจกันแค่นิดเดียว
เชือกที่มัดใจกันมาตลอดและดึงกันมาจนเกือบจะถึงฝังฝันอยู่แล้ว ขาดลงเพราะมีการกระตุกเบาๆ แค่ครั้งเดียวน่าเสียดายที่สุดท้ายต่างคนก็ต่างเสียใจ แต่ก็เรียกทุกอย่างกลับคืนมาไม่ได้ แต่สำหรับหลายคู่หรือหลายคนที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้อยู่ ลองใช้เวลาและสติอีกนิดเพื่อให้ทุกอย่างผ่านช่วงที่เหนื่อยที่สุดกันไปดีกว่า มีหลายคนพูดกันมาเสมอว่า “ถ้าเรารักเขาและเข้าใจเขา ถึงแม้เขาจะไม่ดีบ้างแต่ให้เอา ล้านเข้าหาร แล้วเอาความดีเข้าไปคูณ เชื่อได้ว่ามันพอที่จะหลงเหลือความดีได้อย่างแน่นอน” ก่อนที่จะสำเร็จมันก็ต้องเหนื่อยและท้อกันทุกคน
รักกันแล้ว ตั้งใจมีเป้าหมายร่วมกันแล้ว ก็ควรต้องให้กำลังใจกัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อแต่อย่างใด กำลังใจนั้น มาจากสิ่งไหนบ้าง เรื่องกำลังใจที่ให้กันได้ทุกวัน แบบไม่มีเบื่อและเหมือนเป็นการเติมพลังงานอย่างเร็วยิ่งกว่าการเติมน้ำมันรถเสียอีก ทำทุกวันยิ่งดี 3 ข้อเหล่านี้จัดว่าคนที่เขาประสบความสำเร็จ คู่ที่เขารักกันและอยู่กันได้ทุกวันนี้ทำทุกวัน
3 กำลังใจที่ควรมอบให้กันทุกวัน
1.เหนื่อยไหมคนดี
ไม่ใช่เพลงที่ให้กำลังใจ แต่คำพูดของเราต้องมีความหมายแบบนั้น จริงๆ อย่างเช่น วันนี้งานยุ่งไหม วันนี้งานเยอะหรือเปล่า กินข้าวกับอะไรกลางวันนี้ พรุ่งนี้ให้ห่อขนมให้ไหม หรือการบอกเป็นเชิงว่า เป็นห่วงนะคำถามที่ซ่อนไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยมันมีความหมายลึกซึ่งมากกว่าการถามตรงๆ อย่างมาก ก่อนที่ผู้พูดจะพูดก็คิดสักหน่อยว่าคำถามนี้น่ารักและดูเป็นอย่างไรบ้างถ้าไม่กล้าที่จะพูดกันตรงๆ เดี๋ยวนี้เขานิยมใช้ไลน์คุยกันก็ยิ่งดี มีรูปมี การส่งข้อความยิ่งดีมากๆ เพราะข้อความก่อนที่เราจะส่งออกไปนั้นต้องอ่านและคิดทุกคำ สิ่งที่สำคัญในการส่งข้อความส่งไลน์นั้นคือ อ่านให้ครบส่งแล้วต้องไม่ลบ เพราะนั้นจะเป็นคำถามคาใจของผู้ที่ได้รับตลอดไป ช้าสัก 10 วินาทีดีกว่าส่งออกไปแล้วขอโทษ 10 ปีก็ไม่หาย
2.สนุกไหม
การทำงานของหลายๆ คนก็ไม่ได้สนุกไปเสียทุกอย่าง แต่ถ้าเรารู้ว่าเขาได้ทำงานแบบใหม่หรือมีอะไรใหม่สักนิดในการทำงานก็ถามสักหน่อย งานชิ้นใหม่สนุกไหม ชอบหรือเปล่า แล้วก็ตามไปด้วยคำถามที่เป็นความห่วงใย ทุกครั้งที่ผู้ฟังได้ยิน จะรู้ว่าหายเหนื่อยทันที ถ้าเราอยากได้ยินแบบไหนก็ถามออกไปแบบนั้น ขนาดเราเองก็ยังอยากได้ยินแล้วไม่คิดบ้างหรือว่าเขาก็อยากได้ยินเหมือนกัน
3.กินอะไรกันดี
คำถามเชยๆที่ใช้ได้ตลอดกาล เย็นนี้กินไรกันดี ทำงานมาเหนื่อยๆ กินข้าวก่อนเข้าบ้านกันไหม ร้านนั้นอร่อย ร้านนี้อร่อย แล้วก็แวะไปกินข้าวด้วยกัน ระหว่างมื้อก็คุยเรื่องอื่นที่ไม่เป็นเรื่องงาน ถึงแม้อีกฝ่ายอยากจะคุยเรื่องงานบ้าง แต่เราต้องคอยลดความแรงของเขาลง ไม่ขัดไม่แย้ง แต่ให้พูดเบาๆ ว่า “กินข้าวให้อร่อยก่อนเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว มีความสุขกันสักนิดก่อนเดี๋ยวช่วยกันคิดเรื่องงานต่อ นะ” ทุกครั้งที่พูดแบบนี้ต้องลงด้วยคำปิดท้ายที่ดูแล้วอ่อนโยนที่สุด
จริงๆแล้ว ก็มีคำพูดอีกมากมายที่ให้กำลังใจกันได้ ตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าครอบครัวของแต่ละครอบครัวนั้นเป็นอย่างไร และคู่ของคุณเป็นอย่างไร ไม่แปลกที่จะมีคำพูดที่ต่างกันออกไป แต่สำคัญที่สุดคำพูดเหล่านั้นต้องไม่เป็นการบันทอนจิตใจและไม่ทำร้ายความรู้สึกดีๆ ต่อกัน คำพูดนั้นเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก น่าแปลกที่สุดคำพูดเดียวสามารถทำให้คนร้ายกลายเป็นคนดีได้ ทำให้คนดีกลายเป็นโจรได้ คิดให้หนักก่อนที่จะพูดทุกคำออกไป เมื่อคนเดียวสามารถพลิกโลกได้ คำพูดคำเดียวก็ต้องทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้เช่นกัน